ทดลองอ่าน What If It’s Us บทที่ 9 – บทที่ 10 #นิยายวาย – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน What If It’s Us บทที่ 9 – บทที่ 10 #นิยายวาย

ตอนที่ 10

เบน

 

“คูลค็อฟฟี่แม่งห่วยแตก” ดีแลนพูดตอนเราเดินออกมาจากดรีมแอนด์บีนพร้อมกาแฟแก้วใหม่แทนที่จะเติมในแก้วเก็บความร้อนในเป้ของผม เขาอารมณ์บูดตั้งแต่พูดออกไปว่าซาแมนธาคือว่าที่ภรรยาของเขาแบบที่ปกติแล้วจะไม่พูดกับใครนอกจากผม พูดกับผมน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ไปบอกผู้หญิงแบบนั้นน่ะเหรอ ทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันสองวันเนี่ยนะ มันจะไปดีได้ยังไง “แบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้ กาแฟห่วยๆ มันก็คือกาแฟห่วยๆ อยู่ดี และซาแมนธาเป็นคนทำ ถ้าฉันแต่งงานกับเธอในอนาคต ฉันคงต้องใช้ชีวิตในโลกที่สร้างขึ้นมาอีกใบ ฉันอาจจะสารภาพความจริงกับเธอตอนนอนแก่ใกล้ตายอยู่บนเตียง จะได้ตายไปอย่างคนที่ซื่อสัตย์”

ผมส่ายหน้า “ทำไมนายถึงเป็นคนแบบนี้วะ”

“กินกาแฟห่วยๆ มาเยอะเกินไง บิ๊กเบน”

“มันยังไม่จบสักหน่อย ฉันว่าเดี๋ยวเธอก็คิดได้เองแหละว่านายอ่ะแค่ดีแลนมากไปหน่อยจนเผลอดีแลนมากเกินไป”

“การดีแลนไม่ใช่เรื่องไม่ดี การดีแลนใครสักคนน่ะแปลว่านายรักคนคนนั้น ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะชงกาแฟได้ห่วยที่สุดในโลกสีเขียวที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาก็เถอะ”

เราเดินลัดวอชิงตันสแควร์ปาร์ก หนุ่มเม็กซิกันใส่แว่นแนวฮิปสเตอร์หน้าตาดีคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้านั่ง เขาผงกหัวไปตามทำนองเพลงอะไรก็ตามที่เล่นอยู่ในหูฟังของเขาขณะกินไอศกรีมไปด้วย ไอศกรีมคืออาหารที่ฮัดสันชอบ ไม่ใช่ของหวาน แต่เป็นอาหารเลย มีครั้งหนึ่งเราเล่นเกมกัน ผมจะหลับตา แล้วเขาก็จะตักไอศกรีมที่เหลืออยู่ในช่องแช่แข็งของเขามาป้อนผมหนึ่งช้อน และผมต้องทายว่าเป็นไอศกรีมอันไหน ตอนนั้นเป็นช่วงต้นเดือนมีนา ตอนที่การทำเรื่องเล็กน้อยโง่ๆ ด้วยกันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่สุดแสนพิเศษ เหมือนเป็นอะไรที่เราทำกันแค่สองคน

มือถือดีแลนดัง “ซาแมนธาโทรมาล่ะบิ๊กเบน ฮ่า! รู้หรอกว่าเมียจ๋าขาดแด๊ดดี้ดีไม่ได้”

“เกลียดทุกคำที่นายเพิ่งพูดออกมาเลยว่ะ นิ่งไว้เพื่อน”

ดีแลนขยิบตาให้ผม แต่ผมรู้ว่าเขากำลังตกใจอยู่แน่นอน เขารับสาย “ไง ฉัน…” รอยยิ้มเขาเจื่อนลง “โอ้” ใจผมหล่นนิดหน่อยแทนเขา เขาหันมาหาผม “ของนาย”

โอเค นี่ไม่ใช่ตอนจบหักมุมแสนสุขที่พวกเราคิดไว้ตอนแรกแน่

ผมรับมือถือมา “ว่าไง”

“เหมือนฉันจะเจอพ่อหนุ่มของนายแล้ว” ซาแมนธาพูด

“อะไรนะ”

“มันไม่ง่ายเลย แต่ฉันก็ลองไปค้นๆ มา ฉันลองไปเสิร์ชหาสำนักงานกฎหมายในจอร์เจียที่มีสาขาที่นิวยอร์กแต่ไม่เจออะไร ฉันเลยเข้าอินสตาแกรมแล้วหาเนกไทลายฮอตดอกตามแฮชแท็ก แต่รูปล่าสุดมันตั้งแต่ปีที่แล้ว เลยตัดทิ้งไป ทีนี้ฉันไปหาพวกกลุ่มน้องใหม่ของมหา’ลัยเยลในเฟซบุ๊กและเห็นว่ามีนัดรวมตัวน้องใหม่เยลที่นิวยอร์ก…วันนี้ตอนห้าโมง”

“ล้อเล่นแน่ๆ” ผมพูด

“ฉันกำลังส่งลิงก์กลุ่มในเฟซบุ๊กไปให้”

มือถือสั่นใส่หน้าผม ผมเปิดแชทและกดที่ลิงก์ ‘คลาส 2022 นัดรวมตัวที่เซ็นทรัลปาร์ก’

“ไม่รับประกันนะว่าเขาจะอยู่ที่นั่นมั้ย” ซาแมนธาพูด “ฉันไล่ดูลิสต์ของคนที่ตอบว่าจะมาเข้าร่วม แต่คนเราน่ะนะ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมานั่งตอบอะไรแบบนี้เหมือนที่ไม่ค่อยเขียนว่าขอแสดงความนับถือท้ายบัตรเชิญนั่นแหละ ฉันเลยรู้สึกมีหวังอยู่”

“ว้าว เธอสุดยอดเลย” ผมพูด

“ตอนนี้ฉันคุยกับนายในเวลางานอยู่ เดี๋ยวต้องออกจากห้องเก็บของแล้ว แต่ก็ขอให้นายโชคดีกับการตามหาเขานะ บอกดีแลนให้ด้วยว่าบาย!”

“ขอบใจนะ” ผมพูดตอนเธอวางสายพอดี

“เกิดไรขึ้น เธอพูดถึงฉันมั้ย” ดีแลนถาม

“ดี เสียใจด้วยนะ เธอกำลังจะวิ่งสู่พระอาทิตย์อัสดงไปกับแพทริกแล้ว” ผมพูด เขาพยายามแย่งมือถือคืนแต่ผมไม่ให้ “ล้อเล่นน่า แต่ฟังก่อน เหมือนเธอจะเจออาร์เธอร์แล้ว มีนัดรวมตัวน้องใหม่เยลวันนี้ อะไรจะสะดวกขนาดนั้น”

“ช่าย ว่าที่ภรรยาฉันทำให้นายทุกอย่างนี่มันสะดวกมากเลย”

“นายก็รู้ว่าฉันหมายความว่าไง มีอะไรตั้งมากมายให้อาร์เธอร์ทำในเมืองต่างถิ่น เดี๋ยวเขาก็เจอคนพวกนี้อยู่ดีตอนเริ่มเรียน เขาคงไม่ไปนัดรวมตัวหรอก”

“เราไม่ต้องไปก็ได้” ดีแลนแย่งมือถือกลับไปแล้วดูกลุ่มนั้น “ว้าว ซาแมนธากำลังเสียเวลาทำงานในร้านกาแฟน่าสลดแบบนั้น ให้เธอเป็นเฮอร์ไมโอนี่ในกลุ่มเราสามคนก็ได้นะ ฉันจองแฮร์รี่”

“งั้นฉันก็เป็นรอนน่ะสิ”

“แย่หน่อยนะ”

“รอนได้กับเฮอร์ไมโอนี่ตอนจบ”

“โอเค แต่…ฉันไม่อยากเป็นรอน ไม่มีใครอยากเป็นรอน รูเพิร์ต กรินต์เองก็คงไม่อยากเป็นรอนเหมือนกัน เอางี้เป็นไง ฉันเป็นฮาน โซโล เธอเป็นเจ้าหญิงเลอา ส่วนนายคือลุค”

“ฉันไม่สนหรอก” ผมพูด “โฟกัสหน่อย”

“ช่ายๆ เราควรไปที่ที่เขานัดรวมตัวกัน อาร์เธอร์อาจจะไม่อยู่ที่นั่น แต่ก็อาจจะอยู่ก็ได้” ดีแลนพูด

แค่รู้ว่าเขาอาจจะอยู่ที่นั่นก็มากพอที่จะทำให้ผมก้าวขาต่อไปแล้ว “ไปกันเถอะ”

“ขอพลังจงอยู่กับเจ้า รอน วีสลีย์”

 

“เราควรมีนามแฝงนะ” ดีแลนพูด

เราเดินเข้าไปในเซ็นทรัลปาร์กและมุ่งหน้าไปปราสาทเบลเวเดียร์ที่เป็นจุดนัดรวมตัว การได้เจออาร์เธอร์อีกครั้งที่ปราสาทเหมือนในเทพนิยายสุดเพอร์เฟ็กต์มันดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก แย่หน่อยที่ตอนนี้กลิ่นตัวผมเหมือนโคโลญของพ่อ แถมยังใส่เสื้อโปโลตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วซึ่งตอนนี้คับมาก เพราะนี่แหละสไตล์ของเยล ชัดเลย

“นามแฝงมีแต่จะทำให้เรื่องมันซับซ้อนขึ้นไปอีก” ผมพูด ผมล่ะหวังให้ก่อนหน้านี้เราไม่ได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนจริงๆ เพราะผมแค่อยากใส่เสื้อที่ผมชอบเท่านั้นเอง

“เท่ขึ้นไปอีกต่างหากใช่มะ ฉันว่าฉันจะชื่อดิกบี้ วิตเทเกอร์ ส่วนนายชื่อบรูกส์ ทีค”

“ไม่”

“งั้นก็ออร์สัน บรอนวินย์”

“ไม่”

“ตัวเลือกสุดท้ายแล้วนะ อินแกรม เยตส์”

“ไม่” เราเดินขึ้นบันไดที่จะนำเราไปสู่จุดนัดรวมตัว “โอเค ดี ขอคุยจริงจังหน่อย ตอนนี้ฉันจะประสาทกินแล้ว ฉันอยากเจออาร์เธอร์มากจริงๆ แต่ฉันก็รู้สึกแปลกๆ ที่ตั้งความหวังไว้กับคนที่ไม่รู้จัก ฉันต้องการคำแนะนำจากคนช่วยจีบ ดิกบี้ วิลสัน”

“วิตเทเกอร์” ดีแลนแก้ เขาตบมือ “ถ้าอาร์เธอร์อยู่ที่นี่จริงๆ แล้วพวกนายปิ๊งปั๊งกัน เดี๋ยวหมดหน้าร้อนนี้เขาก็กลับแล้วใช่มั้ยล่ะ คิดซะว่าเขาเป็นเพื่อนแก้เหงาละกัน”

“ไม่เอา ฉันไม่อยากทำกับใครแบบนั้น รวมตัวฉันเองด้วย”

“ถูกของนาย คำแนะนำฉันห่วยเอง บิ๊กบรูกส์”

“เบนเว้ย”

“หลอกนายไม่ได้เลยสินะ” ดีแลนคว้าไหล่ผมทั้งสองข้างและจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผมเหมือนโค้ชจอมเคร่งกับลูกศิษย์ของเขา “นายอาจจะควรพักก่อนแล้วค่อยเดินหน้าต่อก็ได้ ฉันเคารพการตัดสินใจของนายถ้านายอยากไปจากตรงนี้ แต่ฉันรู้ว่านายเป็นนักฝัน บิ๊กเบน และจักรวาลอาจกำลังให้โอกาสครั้งที่สองกับนายตอนนี้จริงๆ”

หวังว่าเขาจะพูดถูกนะ ผมหวังว่าจักรวาลจะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมคิดผิดและให้โอกาสผมจริงๆ…ให้เราทั้งสองคนเลย

“อาจเป็นงั้น” ผมพูด

“ถ้านายไม่ทำเพื่อตัวเอง อย่างน้อยก็ทำเพื่อคนในรถไฟที่ต้องทรมานกับกลิ่นโคโลญของนายในระยะประชิดละกัน”

“ไอ้เวร”

เรามาถึงชั้นบนสุดที่เป็นพื้นที่โล่ง แสงอาทิตย์ ทะเลสาบและส่วนที่เหลือของสวนเหยียดยาวไปด้านหลังกลุ่มน้องใหม่ของเยล พวกผู้ชายส่วนใหญ่ตัวสูง ผมเลยเดินลากเท้าไปรอบๆ แต่ในบรรดาผู้ชายประมาณยี่สิบคน บางคนใช้โคโลญที่หอมกว่าของพ่อผมเยอะ และไม่มีคนไหนที่ใช่อาร์เธอร์

“เขาไม่ได้อยู่ที่นี่” ผมพูด “และมีแค่เราที่ใส่เสื้อโปโล”

“ยังเร็วอยู่ไง” ดีแลนบอก “อาร์เธอร์อาจจะมาที่นี่ในเสื้อโปโลก็ได้มั้ง”

ผมถลึงตา

“เรามาที่นี่แล้ว พยายามสนุกหน่อยดีกว่า” ดีแลนพูด “ถ้านายให้ฉันกลับบ้าน ฉันก็จะแค่นั่งฟังเพลงเศร้าพลางมองออกไปนอกหน้าต่างและสะดุ้งทุกครั้งเวลามือถือสั่นก่อนจะเศร้ากว่าเดิมตอนที่เห็นว่านายส่งข้อความมา ไม่ใช่ซาแมนธา”

“นายทำให้ฉันรู้สึกแย่ แต่ก็ได้ อยู่ต่อละกัน”

“อืม” ดีแลนมองไปรอบๆ “เยลนี่คนแจ่มๆ เยอะนะ ไม่รู้สึกมีแรงผลักดันให้เรียนหนักๆ ปีสุดท้ายแล้วพยายามสอบชิงทุนเต็มจำนวนให้ได้รึไง”

“แต่ไม่มีคนใส่เนกไทลายฮอตดอกนี่สิ”

“ตัวกระตุ้นทางเพศแบบใหม่เหรอ”

“เปล่า แค่…มันดีนะที่ได้เห็นคนที่ไม่คิดมากเรื่องรูปลักษณ์ของตัวเองขนาดนั้น”

“อ่า มีคนที่อยู่ที่นี่จริงๆ กำลังส่องนายอยู่” ดีแลนพูด “สิบเอ็ดนาฬิกาตอนเช้า”

“จะตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ไม่สำคัญสักหน่อย”

“สำคัญสิ เขามีออร่าแบบเดตกันด้วยมื้อเช้าก่อนสาย ไม่ใช่ออร่าแบบพาฉันเข้าไปในห้องน้ำแล้วบั๊มก้นกันเถอะตอนเย็น”

ผมมองผู้ชายคนนั้นแทนที่จะถามดีแลนว่าเขารู้จักใครที่มีกิจกรรมทางเพศโดยการบั๊มก้นกันบ้างเหรอ เพราะผมรู้ดีว่าเขาจะมีคำตอบ ส่วนผมน่ะมีขีดจำกัด ผู้ชายคนนั้นน่ารักมากและดูเป็นพวกเดตด้วยมื้อเช้าแบบเต็มๆ เลย ผิวสีน้ำตาลเข้ม เสื้อตัวนอกสีพีช เสื้อตัวในสีขาว กางเกงสแล็กส์สีกรมท่ายาวเหนือข้อเท้า รองเท้าผ้าใบขอบต่ำสีขาวที่น่าจะแพงกว่าเงินที่ผมเอาไว้ใช้ซื้อเสื้อผ้าสามเดือน สไตล์ของเขาดูเหมือนไม่ต้องพยายามอะไรมาก แต่ถ้าผมได้เรียนรู้อะไรมาบ้างจากดาวดวงใหม่แห่งอินสตาแกรมอย่างแฮเรียต นั่นคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ดูเหมือนไม่ต้องใช้ความพยายามนั้นต้องใช้ความพยายามหนักมาก แต่มันก็คุ้มค่าถ้าอยากให้คนกดถูกใจเยอะๆ แถมยังดูดีด้วย

“ดูดีมีสไตล์” ผมพูด ผมโคตรจะอายที่ตัวเองใส่โปโลคับๆ แบบนี้ “แต่ฉันรู้สึกเหมือนฉันอยากเป็นเขามากกว่าอยู่กับเขาน่ะ”

“บางทีเราน่าจะลองทักเขาดูก่อนจะตัดเขาออกนะ”

“เราไม่รู้นี่ว่าเขาชอบผู้ชายรึเปล่า”

“งั้นนายก็แค่ขายหน้าเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่านายจะต้องใช้เวลาสี่ปีที่เยลกับเขาสักหน่อย”

อย่างกับผมไม่รู้อย่างนั้นแหละ ไม่มีอะไรในใบเกรดของผมที่ทำให้พ่อกับแม่คาดหวังว่าผมจะจบจากมหา’ลัยชื่อดังในกลุ่มไอวีลีกอยู่แล้ว แม่อยากให้ผมเรียนต่อมหา’ลัย จะได้ไม่มีใครมองข้ามผมเหมือนกับที่แม่โดนมาหลายปี แต่ผมว่ามันก็เท่านั้นน่ะแหละ คือถ้าผมต้องแข่งกับใครสักคนที่ยืนอยู่ในกลุ่มนี้ พวกเขาก็จะมองว่าผมคือเบนจากมหา’ลัยชุมชน ไม่ใช่เบนจากเยล แล้วผมก็จะแพ้ไป

แล้วตอนนี้ผมก็เจอผู้ชายหน้าตาดีที่ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรด้วยขึ้นมาซะเฉยๆ ผมเคยรู้สึกแบบนี้กับฮัดสันเหมือนกัน แต่ผลก็ออกมาดีก่อนที่ทุกอย่างจะพังลง ผมคุยกับคนแปลกหน้าไม่เก่ง เหมือนที่ผมคงไม่กล้าเข้าหาอาร์เธอร์ก่อนนั่นแหละ แต่ตอนนี้มันมีช่องเปิดอยู่ ผมเลยลากดีแลนไปทักทายผู้ชายคนนั้นด้วยกัน เขากำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมฮิญาบสีเหลืองสว่าง

“หวัดดี ฉันเบน”

“ฉันดิกบี้ วิตเทเกอร์”

“โว้ว ชื่อเฟี้ยวมาก” หนุ่มน่ารักพูด

“ขอบใจ แล้วนายล่ะ” ดีแลนถาม

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 27-1

บทที่ 27-1 หวงปอรับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานาน แม้จะเทียบไม่ได้กับพวกไป๋ตันหย่งที่ยืนอยู่ข้างกายซ้ายขวาของฮ่องเต้มาตั้งแต...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 125

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบห้า หลายวันก่อนตอนรอเขากลับมา ซูเสวี่ยจื้อเคยมโนภาพหลายครั้งมากว่าคนทั้งคู่จะพบหน้ากันแบบไหน แต่เธอค...

community.jamsai.com