ทดลองอ่าน เกิดใหม่เพื่อคืนฐานะเดิม บทที่ 8 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เกิดใหม่เพื่อคืนฐานะเดิม บทที่ 8

ยังจำได้ว่าตอนนั้นฝนเทลงมาดุจน้ำตก เสื้อกันฝนหญ้าถักที่คลุมอยู่บนร่างแม่นางน้อยผู้นั้นล้วนชุ่มโชก ทว่านางกลับนิ่งมองสายฝนอันหนาหนักอย่างเหม่อลอย ไม่หลงเหลือความคึกคักกระฉับกระเฉงยามด่าทอผู้อื่นที่ลานล่าสัตว์แม้แต่น้อย

ตอนที่เขานึกว่านางถูกน้ำฝนราดรดจนทึ่มทื่อไปแล้วนั้น นางก็พลันเอ่ยปากท่องกลอน ทั้งขัดเกลาคำอย่างจริงจังยิ่ง เฉพาะวรรคที่ว่า ‘ฝนโชกหญ้าชุ่มอาภรณ์คนมิกลับ ท่าข้ามฟากตะวันลับยังวนเวียน’ นั้นก็ปรับแก้ถึงสามหน ท่องซ้ำไปมาระหว่าง ‘ฝนกระหน่ำ’ ‘ฝนซัดคลั่ง’ และ ‘ฝนโชกหญ้า’ จนสุดท้ายถึงได้ข้อสรุป

และก็เพราะท่าทางจริงจังจดจ่อของนางในตอนนั้น ถึงทำให้เขาจดจำคำกลอนอันประดิดประดอยนี้ได้อย่างลึกซึ้ง

ไหนเลยจะคาดคิดว่าหนึ่งปีให้หลังคำกลอนที่ท่องกลางสายฝนริมท่าข้ามฟากนั้นกลับปรากฏในหนังสือรวมบทกวีของผู้อื่นเสียได้ ไม่รู้ว่านี่คือคำกลอนอันไพเราะที่หลิ่วผิงชวนบังเกิดอารมณ์กวีแต่งออกมาระหว่างขายขนมอยู่ข้างทางในตำบลฝูหรงใช่หรือไม่

ฉู่เสียคิดมาถึงตรงนี้แล้วพิศมองพวงแก้มแดงเข้มของหญิงสาวในอ้อมอกอีกครา ก็ยิ่งรู้สึกว่านางช่างน่าสงสารชวนถนอม แม้กระทั่งพฤติกรรมเสียมารยาทที่นางออกแรงผลักไสเขาออกห่างก็ดูไม่น่าโมโหถึงเพียงนั้นแล้ว

“เหตุใดเจ้าไม่ถามข้าถึงที่มาของหนังสือรวมบทกวีนี้เล่า” เขาโน้มตัวมาข้างหน้า ดวงตาหลุบลงมองนางพลางเอ่ย

ฉยงเหนียงเสียหลักจนนั่งแปะลงไปที่ด้านข้าง สายตาไปหยุดบนปกหนังสือที่ปิดแล้วเล่มนั้นพอดี บนนั้นยังคงลงนามว่า ‘ผู้สันโดษธารกระจ่าง’ เช่นเดียวกับในชาติก่อน ทว่าอาจเพราะความชอบส่วนตัวต่างกัน บนปกกับหน้ากระดาษจึงมีภาพสตรีในหอห้องเพิ่มมาไม่น้อย ทำให้ดูขาดความงดงามไปมาก

เห็นทีหลิ่วผิงชวนตั้งปณิธานจะเป็นสตรีผู้มากความสามารถแห่งยุค กระทั่งเรื่องลอกผลงานของผู้อื่นก็ยังทำออกมาได้ บิดามารดาสกุลหลิ่วก็มิเพียงไม่ได้ห้ามปราม ท่าทางยังออกแรงไปไม่น้อยเพื่อช่วยเรียบเรียงบทกลอนที่เมื่อก่อนฉยงเหนียงฝึกฝีมือแต่งทิ้งไว้

ยามนี้ฉู่เสียถามนางด้วยสีหน้าที่คล้ายกำลังรอชมเรื่องขบขัน ย่อมหมายจะเห็นนางเป็นเดือดเป็นแค้นที่รู้ว่าถูกขโมยผลงานไป ทว่านางคิดดูแล้วกลับไม่มีอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนัก

คำกล่าวขวัญว่าเป็นสตรีผู้มากความสามารถนั้น สำหรับชีวิตอันง่อนแง่นของชาวบ้านสามัญแล้วไม่มีค่าแม้สักเฉียนเดียว หากหลิ่วผิงชวนชื่นชอบก็เชิญเอาไปใช้เถิด ตอนนี้ทั้งใจนางหวังแต่ว่าต่อไปร้านของตนจะมีเงินทองไหลมาเทมา นั่นจึงจะมีประโยชน์จริงแท้ยิ่งกว่าการออกหนังสือรวมบทกวีที่ฉ้อโกงคำสรรเสริญนี้มากนัก

ฉู่เสียมองนางพลางเอ่ยต่อช้าๆ “ครอบครัวเก่าของเจ้าเที่ยวนำหนังสือรวมบทกวีนี้มาแจกจ่าย บอกว่าเป็นผลงานประพันธ์ของคุณหนูสกุลหลิ่วผู้นั้น…”

ฉยงเหนียงยังคงหน้าไม่เปลี่ยนสี นางเอ่ยตัดบทเขาอย่างเรียบเฉย “บัดนี้ข้าน้อยไม่นิยมการประพันธ์เหล่านี้แล้ว สิ่งของจำพวกหนังสือรวมบทกวีก็ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับข้าน้อยเช่นกัน หากมีคนชื่นชอบคำกลอนอันไร้เดียงสาเยี่ยงนี้ หากจะนำไปเผยแพร่ก็เชิญเถิด ท่านอ๋องทั้งปราดเปรื่องทั้งเป็นบุรุษผู้องอาจ ในเมื่อตกลงกับบิดามารดาของข้าน้อยว่าจะจ้างข้าน้อยมาเป็นแม่ครัว คาดว่าท่านอ๋องย่อมจะไม่สั่งเช้าอย่างเย็นเปลี่ยนอีกอย่าง ค่าจ้างเพียงห้าเฉียนยังจะให้ข้าน้อยทำงานอื่นเสริมอีก…”

นางไม่วางตนสูงส่ง แต่ก็ไม่วางตนต่ำต้อย ความใจกว้างที่ไม่เก็บเรื่องถูกขโมยผลงานมาเป็นอารมณ์โดยสิ้นเชิงเช่นนี้อยู่เหนือความคาดหมายของฉู่เสีย ทั้งเขายังฟังออกว่าในวาจานางแฝงความหมายเหน็บแนม จึงพลันถามลากเสียงยาว “ข้าให้เจ้าทำงานเสริมอันใดเล่า”

ฉยงเหนียงลงมานั่งคุกเข่าเรียบร้อยดังเดิม ค่อยตอบอย่างไม่รีบไม่ร้อน “งานอันรื่นรมย์เช่นการนั่งอิงในอ้อมอกเจ้านาย ปล่อยให้มือเล็กถูกเกาะกุมนั้น เดิมทีควรเป็นหน้าที่ของพระชายาและอนุนางบำเรอในจวนท่านอ๋อง ข้าน้อยไร้สามารถ ทำงานหยาบมาจนเคยชิน ทั่วร่างก็ฉาบไปด้วยเขม่าน้ำมัน ค่าจ้างเดือนละห้าเฉียนย่อมไม่อาจซื้อหาเครื่องประทินผิวมาบำรุงได้ไหว หากมือที่หยาบกร้านนี้พลั้งเผลอทำให้มืออันล้ำค่าของท่านอ๋องถลอกก็คงจะไม่งามแล้ว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com