ทดลองอ่าน บอสคะ หนูจะไม่ทน! บทที่ 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

LOVE

ทดลองอ่าน บอสคะ หนูจะไม่ทน! บทที่ 4

บทที่ 4 เคาะกะลา ให้มะลิดีใจ

แสงแดดทอดยาวผ่านมู่ลี่ริมหน้าต่างเข้ามาปลุกหญิงสาวซึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาจากการหลับใหล เธอปรือตาขึ้นสู้แสงแต่แล้วก็หรี่ลงยกมือป้องแสงแดดจ้าที่ส่องมาแยงตา

หญิงสาวกะพริบตาขับไล่ความมึนงงครู่หนึ่งก่อนถลันตัวลุกขึ้นนั่ง จำได้ว่าเมื่อคืนเธอเมามาก คุ้นๆ ว่าลืมมือถือไว้ในลิ้นชักเลยให้แท็กซี่แวะมาส่ง กะว่าจะนอนพักเอาแรงสักพักค่อยกลับ เธอเลยมานอนอยู่ตรงนี้กระมัง

มือบางยกขึ้นเสยผมยาวสลวยที่ตกลงมาปรกหน้าลวกๆ หัวสมองตื้อตันเหมือนถูกกดทับไว้ด้วยของหนัก เธอไม่ใช่คอเหล้าแต่เมื่อคืนดันดื่มไม่ยั้ง ถ้าธิดาไม่ไปส่งเธอขึ้นรถแท็กซี่ เธออาจถูกไอ้พี่ป๊อกลากขึ้นรถไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วก็ได้

เธอเหลียวไปรอบกาย สภาพออฟฟิศในวันเสาร์ช่างเงียบเหงา นาฬิกาติดผนังบอกเวลาเกือบสิบโมง เธอยันตัวลุกขึ้นยืนโงนเงนก่อนล้มลงนั่งกองที่โซฟาอีกครั้งด้วยความตกใจยามเห็นร่างสูงใหญ่ของเจ้านายทูนหัวเดินออกมาจากห้องทำงานซึ่งอยู่สุดด้านในทางเดิน

“มึนหัวรึเปล่า เอากาแฟไหม”

มาลินีหน้าเหวอ ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยพูดจานุ่มนวลและมีท่าทีอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

“มะ…ไม่เป็นไรค่ะ เอ่อ บอสมาทำงานแต่เช้าเลยเหรอคะ”

“ผมยังไม่ได้กลับ”

“ยังไม่ได้กลับเหรอคะ”

“จำไม่ได้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน” มาลินีส่ายหน้าจนเส้นผมยุ่งๆ กระจายเต็มบ่า “เมื่อคืนคุณน่ะ…”

เขาเว้นจังหวะปล่อยให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน ทำเอาคนรอคำตอบหน้าตื่น

“มะลิคงไม่ได้พูดอะไรแปลกๆ ออกไปใช่ไหมคะ

“คุณทำยิ่งกว่านั้นอีก”

“มะ…มะลิทำอะไรคะ”

“คุณไล่ผมลงจากโซฟา”

หญิงสาวระบายลมหายใจโล่งอก นึกว่าหลุดปากสารภาพรักเขาไปเสียอีก

“มะลิจะกล้าไล่บอสได้ยังไงล่ะคะ”

“คนเมาทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

หากหญิงสาวรู้ว่านอกจากไล่เขาลงจากโซฟาแล้ว เธอยังสารภาพรัก ทั้งยังขโมยจูบแล้วปีนขึ้นมานอนทับบนตัวเขา เธอจะช็อกสักแค่ไหนกันนะ

“ถ้ามะลิเผลอทำอะไรลงไป บอสอย่าถือสาเลยนะคะ มะลิทำเพราะเมาน่ะค่ะ”

ทว่ายิ่งแก้ตัวเรียวคิ้วหนากลับยิ่งขมวดมุ่น ประกายคมกริบวาววับขึ้นคล้ายคำแก้ตัวนั้นแสลงหูเสียเหลือเกิน

“ถ้าไม่ได้ตั้งใจก็ช่างเถอะ”

เขาสะบัดเสียง พานให้มาลินีใจแป้ว ไม่รู้ว่าทำอะไรให้ทูนหัวไม่พอใจอีก จึงผุดลุกขึ้นยืนพลางยกมือไหว้

“ถ้างั้นมะลิขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“ผมกำลังจะกลับพอดี”

“คะ?”

“ติดรถผมไปก็ได้”

มาลินีเกือบจะพยักหน้าตอบรับแล้ว แต่พอนึกถึงว่าหากมีใครเห็นเธอนั่งรถเจ้านายออกจากบริษัทในเช้าวันเสาร์ที่ทุกคนไม่มาทำงาน ภาพลักษณ์ของเขาจะเสียหายเลยรีบปฏิเสธ

“ไม่เป็นไรค่ะ มะลิกลับได้ แค่นี้เองค่ะ”

“ผมไม่ได้รีบอะไร รอตรงนั้น เดี๋ยวผมไปหยิบของก่อน”

‘ของ’ ที่ว่าคือกระเป๋าเอกสารสุดเฉิ่มสีดำที่เขาถือติดมือออกมาจากห้องทำงาน พอเห็นเธอก้มมอง เขาก็รีบเบี่ยงกระเป๋าคู่ใจไปไว้ข้างหลังแล้วผายมือให้เธอเดินนำไปก่อน

หรือเมื่อคืนเธอจะหลุดปากว่าเขา…เฉิ่ม!

 

“บ้านอยู่แถวไหน!”

“ระยองค่ะ คือ…มะลิหมายถึงมะลิเช่าห้องอยู่แถวพระรามสี่ค่ะ”

นั่นคือบทสนทนาแรกหลังนั่งกันเงียบๆ มากว่าห้านาที เจตต์ขับรถออกมาจากบริษัทเหมือนคนใจลอย มาลินีขยับปากจะบอกทาง แต่เห็นเขาเงียบเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างเลยไม่อยากรบกวน

“แล้วมาทำงานยังไง”

“รถเมล์ค่ะ”

“ประหยัดไม่เข้าเรื่อง ใกล้ๆ แค่นี้นั่งแท็กซี่ก็ได้”

ทว่ามาลินีชินกับเสียงเข้มปนดุของเขาแล้ว จึงตอบกลับทั้งรอยยิ้มเต็มดวงหน้า

“มันแพงนี่คะ”

“ถ้าจำไม่ผิด คุณเคยถูกพวกโรคจิตรังควานบนรถเมล์ไม่ใช่เหรอ”

นั่นมันตั้งแต่ปีแรกที่เธอเริ่มทำงานกับ เจ.ซี.กรุ๊ป เขาจำได้ด้วยเหรอ ฟังแล้วชื่นใจชะมัด

“มะลิต้องส่งเงินค่าเรียนให้น้องชายกับจ่ายหนี้แบงก์ของยาย นั่งแท็กซี่ทั้งขาไปขากลับมะลิจ่ายไม่ไหวหรอกค่ะ รถติดทีค่ามิเตอร์วิ่งพรวดๆ”

“ผมจะพิจารณาขึ้นเงินเดือนให้แล้วกัน”

“บอสอย่าเคาะกะลาให้มะลิดีใจเล่นนะคะ ถ้าไม่ขึ้นให้มะลิโกรธนะ”

“เดี๋ยวผมจะสั่งฝ่ายบุคคลไว้ให้แล้วกัน”

ประกายดีใจเต้นระริกอยู่ในดวงตากลมแป๋ว ริมฝีปากอิ่มเหมือนผลเชอรี่แย้มยิ้มออกมาอวดฟันขาวเรียงตัวสวย พานให้เขานึกถึงห้วงเวลาที่ขโมยสาวตัวแสบปล้นจูบเมื่อคืนก่อนถูกเขาปล้นกลับอย่างร้อนแรงโดยที่สาวเจ้าไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเอาเสียเลย

มาลินีเห็นเขายิ้มใจลอยอยู่คนเดียวพานให้สงสัยนัก

“เมื่อคืนมะลิต้องหลุดปากอะไรออกไปแน่ๆ เลยใช่ไหมคะ เช้านี้บอสถึงดีกับมะลิเป็นพิเศษ”

“พูดยังกับว่าที่ผ่านมาผมร้ายนัก”

มาลินีรีบโบกมือหย็อยๆ ขืนพูดผิดหู จากขึ้นเงินเดือน มีหวังจะถูกไล่ออกน่ะสิ

“มะลิหมายถึงมะลิทำงานกับบอสมาสี่ปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มะลิได้นั่งรถกับบอสสองต่อสอง มะลิเลยสงสัยว่าเมื่อคืนมะลิต้องหลุดปากเรื่องเงินเดือนน้อย งานหนักเยี่ยงทาส บอสดุ ชอบเหวี่ยงวีนใช่ไหมคะ”

“ถ้าเมื่อคืนคุณไม่หลุดปาก วันนี้คุณก็บอกผมเต็มๆ แล้วล่ะมาลินี”

คำตอบเรียบเย็นของเขาทำให้มาลินีเบิกตาโพลง รีบยกมือขึ้นปิดปากทันที

“มะลิขอโทษค่ะ มะลิไม่ได้คิดอย่างนั้นจริงๆ นะคะ มะลิแค่…”

“ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม ไม่ต้องกังวลหรอกมาลินี”

คนฟังลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่คนพูดกลับกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ หากหญิงสาวรู้ว่าเขาได้ยินทุกคำสารภาพ รับรู้ทุกสัมผัสที่เธอมอบให้เมื่อคืน เธอจะทำหน้าอย่างไรนะ

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 29 พ.ย. 62

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in LOVE

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่

ทดลองอ่าน คดีร้อนซ่อนปมรักแห่งศาลต้าหลี่ บทที่ 1

บทที่ 1 สายฝน+ไหวพริบ ต้นฤดูใบไม้ผลิเมืองเซิ่งจิงมีฝนตกชุก ราวกับผ้าไหมผืนบางที่ปกคลุมผืนฟ้า ทำให้ลานที่รกร้างเงียบเหงาข...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 124

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบสี่ เพราะเป็นภาคเรียนสุดท้ายนักเรียนปีสี่จะจบการศึกษาในฤดูร้อนของปีนี้ การเรียนการสอนในห้องเรียนแทบจ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 27-1

บทที่ 27-1 หวงปอรับใช้อยู่ข้างกายฮ่องเต้มานาน แม้จะเทียบไม่ได้กับพวกไป๋ตันหย่งที่ยืนอยู่ข้างกายซ้ายขวาของฮ่องเต้มาตั้งแต...

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 125

บทที่หนึ่งร้อยยี่สิบห้า หลายวันก่อนตอนรอเขากลับมา ซูเสวี่ยจื้อเคยมโนภาพหลายครั้งมากว่าคนทั้งคู่จะพบหน้ากันแบบไหน แต่เธอค...

community.jamsai.com