ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 4 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 4

ทั้งที่บุรุษผู้นี้ถอดเสื้อเกราะออกแล้ว โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวกลับยังคงแผ่ซ่านกลิ่นอายอันแข็งแกร่งเปี่ยมพลังของผู้ที่ตะลุยฆ่าออกมาจากทะเลโลหิต เขากำลังพินิจมองอวี๋ไฉ่หลิง ในดวงตาเผยซึ่งแววห่วงใย ผิดกับสตรีที่เอาแต่ก้มหน้าร่ำไห้ไม่พูดจา จึงไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นเช่นไร รู้เพียงว่ารูปร่างระหงอรชร โค้งเว้าได้สัดส่วน

ฟังวาจาของหญิงชราจบ หญิงอีกนางซึ่งนั่งคุกเข่าก้มตัวประคองอยู่ข้างสตรีที่ร่ำไห้เบาๆ มาโดยตลอดนั้นพลันยืดกายตรง เห็นนางสวมชุดยาวมิดชิดสีเขียว คิ้วตางามกระจ่าง แม้ล่วงถึงวัยกลางคนแล้ว สุ้มเสียงกลับยังใสกังวานอย่างยิ่ง “ที่ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวมาช่างเป็นเรื่องขบขันโดยแท้ ราวกับที่แม่นางสี่รั้งอยู่ในจวนเป็นเพราะนายหญิงของข้าไม่ยินยอมเลี้ยงดู ข้ามิบังอาจก้าวล่วง แต่ก็รู้ว่าเมื่อแรกทิ้งแม่นางสี่ไว้เพื่อแสดงความกตัญญูต่อฮูหยินผู้เฒ่า หากมิใช่ผลการเสี่ยงทายของหมอดูผู้นั้น มีหรือนายหญิงของข้าจะยอมละทิ้งบุตรสาววัยสามขวบไว้ที่นี่”

อวี๋ไฉ่หลิงรู้กระจ่างทันทีว่าหญิงชรากับสตรีที่ก้มหน้าร่ำไห้ผู้นั้นเป็นใคร เธอรีบมองสังเกตรอบด้าน พบว่านี่ไม่ใช่ห้องเดิมที่อาสะใภ้คนดีจัดให้เธอแล้ว ห้องนี้ค่อนข้างเล็ก การตกแต่งก็เรียบง่ายมาก ที่เหมือนเดิมคือพื้นไม้เคลือบเงาวาววับ มีเพียงบริเวณหนึ่งลาดพรมขนสัตว์ผืนหนาที่มีหลายสีแซมปน เตาอุ่นแม้ทำให้ในห้องอุ่นสบาย กระนั้นทุกคนก็ยังต้องสวมถุงเท้าหนา

บนพื้นวางกระดานสี่เหลี่ยมที่เตี้ยเล็กหลายอัน ค่อนข้างคล้ายกระดานหมากแบบมีขาตั้งในเรื่อง ‘ฮิคารุเซียนโกะ’ ด้านบนรองเบาะขนสัตว์ มีคนนั่งคุกเข่าอยู่บนนั้น น่าจะใช้งานเป็นม้านั่ง เพียงแต่มีคนจำนวนมากยิ่งกว่านั่งคุกเข่าโดยตรงบนพื้นไม้ที่เงาวับ

“อาชิง อย่าได้พูดส่งเดช” เซียวฮูหยินที่ร่ำไห้เบาๆ รีบเงยหน้าเอ่ยตำหนิ ก่อนกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่าเฉิง “ท่านแม่โปรดอภัย อาชิงมีนิสัยเช่นนี้เอง ล้วนเป็นเพราะนางปวดใจแทนเหนียวเหนี่ยว”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกลับไม่ยอมเลิกรา ตวาดออกมาอย่างเดือดดาล “บ่าวชั้นต่ำ บังอาจกำแหง! ใครอยู่ข้างนอก จงนำพลองมา…”

วาจายังไม่ทันเอ่ยจบ ผู้ใดจะรู้ว่านักรบผู้นั้นกลับเอ่ยตัดบทเสียงเย็น “กำแหงอันใดกัน ที่อาชิงพูดมาผิดหรือไร เมื่อแรกทิ้งเหนียวเหนี่ยวไว้ก็เพื่อแสดงความกตัญญู ยามนี้กลับพูดเหมือนพวกเราสามีภรรยาไม่ยอมเลี้ยงดูนาง ซ้ำยังเนรคุณสร้างความลำบากแก่ท่านแม่อีก กตัญญูต่อท่านแม่เป็นสิ่งสมควร ทว่าคำพูดก็พึงว่ากันตามตรง”

“สื่อเอ๋อร์ เจ้า!” คำว่า ‘พวกเราสามีภรรยา’ นี้ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงทนฟังไม่ได้ที่สุด นางทั้งตระหนกทั้งขุ่นเคือง คิดในใจว่าแม้บุตรชายคนโตจะฟังภรรยามากกว่ามารดามาแต่ไหนแต่ไร ทว่าต่อปากต่อคำซึ่งหน้าเยี่ยงนี้กลับเกิดขึ้นไม่มาก

อวี๋ไฉ่หลิงพลันเวียนหัวตาลาย เพียงจับประเด็นสำคัญได้ข้อเดียว นี่เธอชื่อ ‘เหนียวเหนี่ยว’ ?! เห็นกันอยู่ว่าเป็นบุตรสาว กลับตั้งชื่อที่แปลว่า ‘นก’ * หรือว่า…ขาดสิ่งไหนก็เสริมสิ่งนั้นเสียเลย?

อาชิงหันหน้ามาเห็นอวี๋ไฉ่หลิงแววตาทึ่มทื่อ สีหน้าซึมเซา จึงเอ่ยด้วยเสียงอันนุ่มนวล “แม่นางสี่พอจะมีกำลังวังชาบ้างแล้วหรือไม่ หลายปีมานี้ไม่เคยได้พบท่านพ่อท่านแม่ ชั่วดีอย่างไรก็คำนับก่อนสักครั้งเถิด” นางเอ่ยพลางส่งสายตาให้สาวใช้สองคนที่อยู่ด้านข้างของอวี๋ไฉ่หลิง

อวี๋ไฉ่หลิงเคยเห็นฝูเติงคำนับอาจู้กับฝูอี่ แต่ไม่รู้ว่ากรณีนี้มีข้อปฏิบัติที่ต่างกันหรือไม่ จึงทำทียกสองแขนขึ้นในอาการอ่อนแรงโงนเงน สาวใช้สองคนนั้นมีไหวพริบดีเยี่ยม รีบก้าวขึ้นหน้ามาประคองแขนกับลำตัวของอวี๋ไฉ่หลิงด้วยความคล่องแคล่ว ช่วยอวี๋ไฉ่หลิงตั้งแต่คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียง จัดวางมือขวาทับบนมือซ้าย ดึงแขนเสื้อลงป้องแขน ช้อนสองมือขึ้นเสมอหน้าผาก แล้วก้มคำนับลงบนเตียง จากนั้นสาวใช้คนหนึ่งก็เอ่ยเสียงเบาข้างหูอวี๋ไฉ่หลิง “คุณหนูเอ่ยทักทายท่านพ่อท่านแม่สิเจ้าคะ” อวี๋ไฉ่หลิงทำตามคำบอกก่อนจะถูกพยุงลุกขึ้น ถูกยกมือขึ้นเสมอคิ้วแล้ววางแขนลง จึงค่อยนับว่าเสร็จพิธีการ

 

* อักษร ‘เหนียวเหนี่ยว 嫋嫋’ แปลว่า ‘อ่อนช้อย’ แต่อวี๋ไฉ่หลิงเข้าใจว่าเป็นอักษร ‘เหนียวเหนี่ยว鸟鸟’ ที่แปลว่า ‘นก’ โดยอักษร ‘鸟’ ยังใช้เป็นคำหยาบหมายถึงองคชาตด้วย

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com