ทดลองอ่าน ข้าผู้นี้… วาสนาดีเกินใคร บทที่ 4 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าผู้นี้··· วาสนาดีเกินใคร

ทดลองอ่าน ข้าผู้นี้… วาสนาดีเกินใคร บทที่ 4

เมื่อชาติก่อนหลังนางแต่งเข้าสกุลเผยได้ไม่นานก็ตั้งครรภ์ ตอนที่อายุครรภ์ห้าเดือน มีวันหนึ่งนางเหยียบเมล็ดถั่วเขียวเข้า ลื่นไถลลงพื้นอย่างแรง ส่งผลให้เลือดไหลไม่หยุด เสียลูกไป ต้องพักฟื้นตัวอยู่นานถึงลงจากเตียงได้ กระนั้นร่างกายก็ไม่แข็งแรงเหมือนก่อน ภายหลังไม่ว่ากับเผยซิวจื่อหรือว่าเซียวอิ้นถังนางก็ไม่เคยตั้งครรภ์อีก

เมล็ดถั่วเขียวเหล่านั้นก็เป็นฝีมือของเด็กคนนี้ที่สาดมาใต้เท้านาง เจินจยาฝูจำได้ว่าตอนนั้นเผยซิวจื่อโมโหอย่างมาก อยากจับตัวเขาไปแขวนแล้วฟาด ทว่าถูกซินฮูหยินขวางเอาไว้ วันต่อมาหลังซ่งฮูหยินรู้ข่าวยังมาก่อความวุ่นวายที่จวนหนหนึ่ง บอกเด็กยังเล็กไม่รู้ประสา ดีไม่ดียังถูกผู้อื่นใส่ความ ภายหลังเรื่องนี้ก็ผ่านไปโดยไม่มีบทสรุป

ตอนนี้เมื่อมาคิดดู การที่ชาติก่อนไม่มีลูกคอยเหนี่ยวรั้ง สำหรับนางแล้วก็นับเป็นโชคดีในคราวเคราะห์เช่นกัน ถึงอย่างนั้นเด็กที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ไม่ว่าอย่างไรเจินจยาฝูก็ไม่อาจเกิดความรู้สึกผูกพันขึ้นมาได้

เมิ่งซื่อมองดูภาพตรงหน้านี้อย่างตกตะลึง คนสกุลซ่งกลับเหมือนคุ้นเคยดี ซ่งฮูหยินหัวเราะขึ้นมา ในแววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่ ต่อว่าคำหนึ่งว่า “ซุกซน” ก่อนสั่งให้คนอุ้มเด็กน้อยมาหา

เฉวียนเกอเอ๋อร์ชอบขี่คน ทั้งยังเลือกสาวใช้ที่หน้าตาดีมาขี่ แต่ยามเขาอยู่สกุลเผยกลับไม่กล้าละเล่นเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกคนนำไปฟ้องฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าเรียกซินฮูหยินไปหา นับจากนั้นซินฮูหยินก็ไม่อนุญาตให้เฉวียนเกอเอ๋อร์ขี่คนอีก แต่ทางสกุลซ่งด้านนี้กลับไม่ห้ามปราม ส่งผลให้เฉวียนเกอเอ๋อร์ชอบมาวิ่งเล่นที่นี่มากกว่า

เยี่ยหมัวมัวรีบเดินเข้าไปอุ้มเฉวียนเกอเอ๋อร์ขึ้นมา ซ่งฮูหยินรับตัวหลานชายมานั่งอยู่บนตักตนเอง เด็กน้อยบิดตัวไปมาคล้ายต้องการลงไป นางโอบเขาเอาไว้ เหลือบสายตาขึ้นมองเจินจยาฝูพลางเอ่ย “ข้ามีบุตรสาวคนเดียว นางเปรียบเสมือนเลือดเนื้อหัวใจของข้า แต่บัดนี้นางไม่อยู่แล้ว เฉวียนเกอเอ๋อร์จึงไม่ต่างอะไรกับหลานชายสายตรงของข้า คนอย่างข้าแบ่งแยกบุญคุณความแค้นอย่างชัดเจน ผู้ใดปฏิบัติต่อเฉวียนเกอเอ๋อร์ดีก็เท่ากับปฏิบัติต่อข้าดี…”

นางชะงักไปเล็กน้อย หรี่ตาลง ก่อนเน้นเสียงหนักขึ้น “ผู้ใดกล้าคิดเล่นงานเขา ต่อให้เป็นแค่ขนเส้นเดียว หากข้ารับรู้ก็อย่าได้คิดว่าข้าจะปล่อยไปเป็นอันขาด”

เมิ่งซื่อฟังแล้วสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่

เจินจยาฝูผงกศีรษะ “ท่านแม่บุญธรรมกล่าวได้ถูกต้องที่สุดเจ้าค่ะ”

ซ่งฮูหยินไม่มั่นใจว่าเจินจยาฝูฟังเข้าใจจริงๆ หรือไม่ ในตอนที่จับจ้องอีกฝ่าย เด็กบนตักนางก็มองเจินจยาฝูด้วยเช่นกัน พลันไถลตัวลงมา มุดผ่านวงแขนนางออกไป วิ่งไปตรงหน้าเจินจยาฝู เชิดหน้าขึ้นพร้อมเท้าเอวเอ่ยสั่ง “เจ้าหมอบลง! ข้าจะขี่ม้า!”

เจินจยาฝูเดินไปทางเด็กคนนั้น หยุดยืนอยู่หน้าเขา ยิ้มแย้มก้มตัวลงเอ่ย “ขี่ม้าไม่ได้ แต่ว่าข้าสามารถอุ้มเจ้าเล่นได้”

เฉวียนเกอเอ๋อร์ล้มตัวลงพื้นทันที ทางหนึ่งถีบขาปัดป่ายไปมา อีกทางร้องโวยวาย “ไม่เอาอุ้ม! ข้าจะขี่ม้า! จะขี่ม้า!”

เมิ่งซื่อสีหน้าไม่น่ามอง

ซ่งฮูหยินรีบส่งสายตาไปให้เยี่ยหมัวมัว เยี่ยหมัวมัวเดินเข้ามาอุ้มเฉวียนเกอเอ๋อร์พร้อมเอ่ยเอาใจ “พวกเราไปข้างนอก ไปข้างนอกแล้วค่อยเล่นขี่ม้ากันเจ้าค่ะ”

เฉวียนเกอเอ๋อร์พ่นน้ำลายใส่นาง กำหมัดชกนางไม่หยุดพร้อมร้องตะโกน “ข้าจะขี่เดี๋ยวนี้!”

เจินจยาฝูยืนอยู่ตรงนั้น มองดูเด็กน้อยที่ดิ้นอยู่ในอ้อมแขนเยี่ยหมัวมัวอย่างเย็นชา มุมปากยังคงมีรอยยิ้มบางๆ

หนนี้ใบหน้าของซ่งฮูหยินก็เริ่มประคองไว้ไม่อยู่แล้ว หลังกระแอมกระไอออกมาหนหนึ่ง สาวใช้หลายคนก็เข้าไปช่วยเยี่ยหมัวมัวจนมือไม้วุ่นวาย ยกตัวเฉวียนเกอเอ๋อร์ที่ร้องไห้โวยวายออกไปทันที

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าผู้นี้··· วาสนาดีเกินใคร

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com