ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 11 – 12 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

ทดลองอ่าน ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา เล่ม 1 บทที่ 11 – 12

เมิ่งถังทั้งตื่นตะลึงและดีใจ รีบขอบคุณมู่หวาฮุย “ขอบคุณศิษย์พี่”

ดวงตาโค้งขึ้นเห็นความลิงโลดและรอยยิ้มที่อยู่ข้างในได้ชัดเจน

หัวใจที่แขวนลอยอยู่เมื่อครู่ของมู่หวาฮุยพลันผ่อนคลายลงไม่น้อย

หลังจากอืมออกมาคำหนึ่ง เขาพลันถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่เจ็บหรือ”

แม้เขาจะใช้ปราณวิเศษทำให้กระดูกที่หักเชื่อมต่อใหม่ แต่ความรู้สึกเจ็บเขากลับไม่อาจทำให้หายไปได้ กระทั่งการใช้ปราณวิเศษซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพเดิม เรื่องนี้ก็มีอาการข้างเคียง นั่นคือทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดที่มีอยู่แต่เดิมเพิ่มมากขึ้น…

เมิ่งถังกำลังจมอยู่ในความลี้ลับมหัศจรรย์และความดีใจที่แขนตนหายดีเช่นนี้ได้ ชั่วขณะนั้นไม่ได้ใส่ใจเรื่องเจ็บหรือไม่เจ็บ มาบัดนี้จู่ๆ มู่หวาฮุยก็เอ่ยถามขึ้น ประสาทสัมผัสทั้งห้าของนางกลับมาทันที

หลังจากชะงักนิ่งไปชั่วขณะ นางก็เริ่มกรีดร้องร่ำไห้ออกมาอย่างทนไม่ไหว

“ศิษย์พี่ ข้าเจ็บนัก!” ศิษย์พี่ เพราะเหตุใดท่านต้องตั้งใจเตือนข้าเรื่องนี้ด้วย!

ร้องไห้จนไม่เหลือความงาม น้ำตาไหลออกมาราวกับน้ำพุ จอนผมรุ่ยร่ายเล็กน้อย ตัวเสื้อด้านหน้าสีเขียวอ่อนไม่รู้มีโลหิตสีแดงฉานหลายหยดกระเซ็นมาถูกตั้งแต่เมื่อใด

มู่หวาฮุยกลับรู้สึกว่าเมิ่งถังที่เป็นเช่นนี้ดูแปลกใหม่มีชีวิตชีวาน่ารักยิ่ง

อดหยักยกมุมปากขึ้นไม่ได้ จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปกดที่ข้างลำคอเมิ่งถังเบาๆ ทีหนึ่ง

ตอนนี้เขาเองก็ไม่มีวิธีขจัดความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านี้ได้ ได้แต่ทำให้นางหมดสติหลับไปก่อน เมื่อนอนหลับแล้วย่อมไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด

ก่อนเมิ่งถังจะหลับตาทั้งสองข้างลงก็รับรู้ได้ว่ามู่หวาฮุยยื่นมือมารับร่างนางไว้ ยังโอบเอวให้นางพิงอยู่กับร่างของเขาอย่างเอาใจใส่ยิ่ง

จิตสำนึกค่อยๆ เลือนราง ในใจของเมิ่งถังยังคิด กลิ่นอายบนร่างศิษย์พี่หอมจริง อ้อมแขนของศิษย์พี่ก็อบอุ่นยิ่ง แต่ศิษย์พี่ไม่ใช่มีนิสัยรักสะอาดหรอกหรือ ทั้งแต่ไรมาก็ไม่ชอบสัมผัสเนื้อตัวกับคนอื่น เขากลับให้นางอิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา นี่คงไม่ใช่นางฝันไปกระมัง

ถ้าเป็นฝันจริงก็น่าจะเป็นฝันดี

 

หลังจากเมิ่งถังตื่นขึ้นมาก็งุนงงอยู่พักใหญ่ นอนนานเกินไปหรือเต็มอิ่มเกินไป ตอนตื่นขึ้นมาจะรู้สึกงุนงงสับสนได้ง่าย

เมิ่งถังมองเพดานมุ้งสีครามอ่อนเหนือศีรษะครู่หนึ่ง ค่อยๆ นึกถึงเรื่องที่นอกเมืองเหิงหยางขึ้นมา

เอียงหน้าไปมองแขนซ้ายของตน ยังดีอยู่ ยกแขนขึ้นลงเหวี่ยงหน้าเหวี่ยงหลัง เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว

จุดที่บาดเจ็บก็ยังเจ็บอยู่ ทว่าความเจ็บปวดในตอนนี้อยู่ในขอบเขตที่ทนไหว ไม่เหมือนตอนนั้น ประหนึ่งมีลูกศรหมื่นดอกแทงทะลุหัวใจ ถูกน้ำมันราดไฟเผา ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถทานทนได้

เมิ่งถังเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง เลิกผ้าห่มจะลุกขึ้น เพิ่งจะลุกขึ้นมานั่งตัวตรงที่ขอบเตียงก็ได้ยินเสียงแอ๊ดดังขึ้นมาเบาๆ

เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นมู่หวาฮุยผลักประตูเดินเข้ามา

แสงจันทร์สุกสกาวละมุนละไมดุจสายน้ำ สาดส่องเงาร่างที่เดิมก็สูงโปร่งให้ยิ่งทอดยาว แต่ก็เหมือนใส่ฟิลเตอร์ที่ให้แสงนุ่มนวลเข้ามาชั้นหนึ่ง ขับให้ทั่วร่างของเขาดูราวกับเทพเซียนที่เพิ่งจุติลงมาสู่ทางโลก

“ศิษย์พี่” เมิ่งถังเรียกเขาคำหนึ่ง ก้มตัวลงสวมรองเท้า

เมื่อครู่นางมองดูแล้ว บนร่างตนสวมชุดข้างในสีขาวที่สะอาดสะอ้าน ชุดกระโปรงสีเขียวอ่อนสกปรกที่นางสวมอยู่เดิมถูกเปลี่ยนออกไปแล้ว กระทั่งยังรู้สึกได้ว่าเนื้อตัวสดชื่นสบายคล้ายเพิ่งอาบน้ำมา

เมิ่งถังไม่กังวลแม้แต่น้อยว่ามู่หวาฮุยจะเป็นคนถอดชุดกระโปรงนางออกเปลี่ยนเป็นชุดสวมข้างใน กระทั่งยังอาบน้ำให้นาง ในใจของนาง มู่หวาฮุยเป็นบุรุษที่สุภาพสง่าผ่าเผยรู้จักยับยั้งชั่งใจควบคุมตนเอง เขาไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ อีกทั้งมู่หวาฮุยเห็นนางเป็นดั่งน้องสาว ไม่มีความรู้สึกเสน่หาต่อนางแม้แต่ครึ่งส่วน

ดังนั้นจะต้องเรียกศิษย์หญิงคนอื่นมาช่วย หรือไม่ก็ใช้อาคมอะไรเป็นแน่

มู่หวาฮุยพอลงมือ กระดูกแขนที่หักของนางก็เชื่อมติดกันโดยสามารถมองเห็นด้วยสายตา เช่นนี้ยังจะมีเรื่องอันใดที่เป็นไปไม่ได้อีก

จึงสวมรองเท้าต่อไปโดยไม่รู้สึกหนักใจอะไร

สายตาของมู่หวาฮุยอดจับจ้องไปที่เท้าของนางไม่ได้

ในห้องทั้งสี่มุมมีมุกราตรีขนาดกำปั้นฝังอยู่ แสงนุ่มนวลละมุนละไมของมุกราตรีสาดส่องลงมาที่เท้าของนาง ขับให้เท้าทั้งสองขาวผ่องดุจหิมะ ข้อเท้าเรียวเล็กเพียงมือข้างเดียวก็กำได้รอบ

มู่หวาฮุยเบนสายตาออก เดินไปนั่งลงที่ข้างโต๊ะ

ครู่เดียวเมิ่งถังก็สวมรองเท้าเรียบร้อย หยิบเสื้อขนสุนัขจิ้งจอกจากบนชั้นวางเสื้อที่อยู่ด้านข้างมาสวมใส่ เดินอย่างว่องไวมาที่โต๊ะแล้วนั่งลง

“ศิษย์พี่ ข้านอนไปนานเพียงใดหรือ”

ด้านนอกดวงจันทร์อยู่กลางท้องฟ้า คงไม่ใช่นางเพิ่งนอนหลับไปหนึ่งถึงสองชั่วยาม* กระมัง

“สามวันสามคืน” คำตอบของมู่หวาฮุยประสบความสำเร็จในการทำให้เมิ่งถังตื่นตระหนก

ที่แท้นางนอนหลับไปถึงสามวันสามคืน!

ทว่ามาคิดดูก็ใช่ เห็นอยู่ว่าก่อนหลับไปแขนซ้ายตรงที่บาดเจ็บยังเจ็บปวดอย่างที่สุด มาบัดนี้กลับเพียงปวดเมื่อยเล็กน้อย ถ้านอนเพียงหนึ่งถึงสองชั่วยามไหนเลยจะหายเจ็บได้ไวเช่นนี้

จึงร้องอ้อออกมาคำหนึ่ง ยื่นมือไปพลิกถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะ จะรินน้ำชาให้ตนเองกับมู่หวาฮุยดื่ม

กาน้ำชาที่หิ้วขึ้นมากลับถูกมู่หวาฮุยเอาไปแล้ว พริบตาถัดมาเขาก็หยิบกาน้ำชาเครื่องเคลือบสีเขียวออกมาจากในแหวนเก็บทรัพย์ของตนใบหนึ่ง

น้ำชาที่รินลงถ้วยมีสีม่วงอ่อน ไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมา ดมดูมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึมซาบเข้าไปในหัวใจ

เมิ่งถังประหลาดใจ “ศิษย์พี่ นี่คืออะไร”

“ดอกจื่อหลิงหลัน” มู่หวาฮุยตอบสั้นได้ใจความ น้ำเสียงปกติยิ่ง คล้ายของสิ่งนี้เป็นเพียงดอกไม้ใบหญ้าที่พบเห็นได้ข้างทางต้นหนึ่ง

แต่เมิ่งถังกลับตื่นตะลึงแล้ว

ตอนเรียนอยู่ในกระโจมห้องเรียนมีวิชาหลอมโอสถ นางจำได้ว่านางเคยได้ยินอาจารย์ผู้สอนเอ่ยในชั้นเรียนครั้งหนึ่ง ดอกจื่อหลิงหลันเป็นยาครอบจักรวาลในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงเติบโตในทางเหนือที่หนาวยะเยือกมีแต่น้ำแข็งหิมะ

อีกทั้งจื่อหลิงหลันจะอยู่คู่กับงูศิลาน้ำแข็ง คิดจะเอาดอกจื่อหลิงหลันก็ต้องสังหารงูศิลาน้ำแข็งเสียก่อน

ได้ยินว่างูศิลาน้ำแข็งร้ายกาจยิ่ง ร่างแข็งแกร่งดุจศิลาน้ำแข็ง อ้าปากพ่นน้ำแข็งที่มีพิษร้ายแรงออกมา ถ้าไม่ระวังถูกพิษเข้าก็ต้องตายสถานเดียว เพราะเหตุนี้เองจื่อหลิงหลันจึงพบเห็นน้อยและหาได้ยากยิ่ง

เมิ่งถังก้มหน้าลงมองถ้วยชา แล้วเงยหน้าขึ้นมองมู่หวาฮุย

เพื่อจะรักษาอาการบาดเจ็บของนาง มู่หวาฮุยถึงกับตั้งใจไปทางเหนือเก็บดอกจื่อหลิงหลันมาหรือ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้าต้องปกป้องศิษย์พี่ผู้หล่อเหลา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 1

บทที่ 1 ปีที่ยี่สิบสี่รัชศกเฉียนเต๋อแห่งราชวงศ์ต้าผิงได้ถูกกำหนดให้เป็นปีที่ต่างไปจากปกติธรรมดา ชุนจื้อ เพิ่งผ่านไป ข่าว...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน บทนำ-บทที่ 2

บทนำ   เทวทูตแห่งเขาปี้ลั่ว   วันนี้เป็นวันจิงเจ๋อ ขณะทูตจากเขาปี้ลั่วมาถึงสกุลมู่ มู่เฉินเพิ่งจะดึงถังน้ำขึ้นมาจาก...

community.jamsai.com