ทดลองอ่าน ล่ารักเกมอันตราย ตอนที่ 6 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน ล่ารักเกมอันตราย ตอนที่ 6

อะไรนะ เขาถามว่าอะไรนะ

เมื่อเธอเข้าใจในที่สุดว่าเขาถามว่าอะไร เสี่ยวหม่านก็หน้าแดงฉาน เธอควรจะตอบเขา หากแต่ก็พูดไม่ออก สวรรค์รู้ดีว่าเธอรู้สึกปั่นป่วนจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว

เห็นเธอเงียบไป แต่เขายังก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม ริมฝีปากร้อนผ่าวแทบจะแนบชิดกับหูเธอ เขาพูด

“สัตว์ประหลาดน้อย?”

“ฉันไม่ใช่…”

เมื่อเธอหาเสียงเจอแล้วก็ส่งเสียงท้วง แต่เพราะต่อมาเขาเอามือโอบเอว เธอก็เลยหยุดกลางคัน

“เฮ้อ คุณน่ะเป็น” เขาเป่าลมรดหูเธอ พูดเสียงแหบพร่า “คนที่วนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดทั้งวัน เต้นรำจับมือกับสัตว์ประหลาดพวกนั้นหัวเราะเฮฮา แล้วก็จู้จี้ขี้บ่น”

เขาพูดขึ้นมาแบบนี้ทำให้เธอหน้าแดงถึงใบหู

“ไม่เกี่ยวกับฉัน…”

เขาหยิกเอวเธอเบาๆ เธอก็ร้องเบาๆ

“ผมอยากคบกับคุณ” เขาพูด

เธอใจเต้นอีกครั้ง เอ่ยคำว่า

“ไม่…”

“เพราะอะไร”

เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขายังมีหน้ามาถามเธอ

“สามเดือน” เสี่ยวหม่านหน้าแดงถึงใบหู จับมือใหญ่ของเขาที่โอบเอวเธอไว้ พูดอย่างแง่งอนว่า “คุณหายตัวไปตั้งสามเดือน หายไปโดยไม่บอกกล่าวอะไร แม้แต่เงาก็ไม่โผล่มาให้เห็น ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณจะไม่อยู่ๆ ก็หายตัวไปนานสามปี”

เขาหัวเราะเสียงเบา “เรื่องแค่นี้เอง”

เสียงหัวเราะของตาทึ่มทำให้เธอโมโหจริง

“ฉันไม่อยากคบกับไอ้งั่งที่สามารถหายตัวไปได้ทุกเมื่อ!”

“เป็นเพื่อนกับเป็นแฟนน่ะไม่เหมือนกันอยู่แล้ว” เขาบอกเธอ “ถ้าหากว่าคุณเป็นแฟนผม ผมไม่มีทางหายหัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าว”

เธอยันอกเขา เอ่ยเสียงเบา “คุณเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า เป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรจะหายหัวไปไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้ ไม่รู้หรือว่าคนเป็นเพื่อนก็เป็นห่วงกันได้เหมือนกัน”

“คบเพื่อนอย่างวิญญูชนให้จืดเหมือนน้ำ สามปีไม่ติดต่อกันเป็นเรื่องปกติ อีกอย่างผมไปทำงาน เพื่อนกันต้องรู้ว่าผมดูแลตัวเองได้”

เธอเม้มปาก สักพักก็อดไม่อยู่

“แล้วมันไม่เหมือนกันตรงไหน”

เธอเพิ่งกล่าวจบก็รู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมจากการที่เขาหัวเราะ

“ไม่เหมือนกันตั้งหลายเรื่อง” เขายันผนังไว้ ยิ้มแล้วพูดที่ข้างหูเธอว่า “เป็นเพื่อนจับมือกันไม่ได้ เอาเปรียบไม่ได้ มาหาโดยไม่มีเหตุผลไม่ได้ อาจจะนอนเตียงเดียวกันได้แต่ก็แตะต้องตัวกันไม่ได้…”

“เพ้ออะไรของคุณ” มุมปากเธอเริ่มหยักยิ้มจึงกัดปากไว้

“เพ้อเจ้อตรงไหน ก็เพราะเป็นเพื่อนไง ไม่บอกอะไรให้รู้ก็ไม่เห็นเป็นไร” เขาเลิกคิ้ว กล่าวอย่างจริงจังว่า “แต่เป็นแฟนจะไม่เหมือนกันแล้ว แฟนต้องทนอารมณ์กับกลิ่นเท้ากลิ่นเหงื่อของผมได้ ทนฟังผมบ่นเจ้านายกับลูกค้าได้ รับฟังความคิดอันยอดเยี่ยมของผม ถึงจะไม่ได้วิเศษวิโสอะไรแต่ก็ต้องคอยชื่นชมผม ปรบมือให้ผมดังๆ เติมเต็มความเชื่อในตัวเองของผมและทำให้ผมมีความมั่นใจ บางครั้งก็ต้องยอมให้ผมอวดกล้ามเนื้อเป็นมัดและความเป็นชายในตัว…”

สุดท้ายเธอก็กลั้นไม่อยู่ หัวเราะคิกคัก

เสียงหัวเราะจากเธอให้กำลังใจเขา เกิ่งเนี่ยนถังยิ้มและพูดต่อ “คุณนึกดู หลังจากที่ทนกับนิสัยบ้าบอและพฤติกรรมไม่ดีของผมมากขนาดนี้ได้ จะให้ผมคอยรายงานว่าผมไปอยู่ไหนมาก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผลและควรจะทำอยู่แล้ว ไม่อย่างงั้นเดี๋ยวผมจะโดนบอกเลิก เรื่องนี้ผมเข้าใจดี”

“เป็นแฟนคุณต้องทนรับเรื่องแค่นี้แน่หรือ”

เธอถามกลับขำๆ แต่พอพูดออกไปเธอก็รู้สึกว่าตัวเองถามผิดคำถาม หัวใจเธอสูบฉีดขึ้นมา จังหวะหัวใจของชายตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นเต้นรัวแรง

“แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นี้”

เสียงที่ริมหูเธออยู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นยิ่งทุ้มต่ำแหบพร่า เธอรู้สึกใบหูร้อนผ่าว ทั้งร่างสั่นสะท้าน

อีกครั้งที่เธอหยุดหายใจโดยอัตโนมัติ ณ ตอนนั้นเธอรู้ว่าสิ่งที่เธอพูดต่อจากนี้จะเป็นการตัดสินเส้นแบ่งของคำว่า ‘เพื่อน’

เธอควรจะคิดให้ดีก่อน ไปคิดให้ดีกว่านี้ แต่ผู้ชายคนนี้ทั้งน่ารักทั้งมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ตอนนั้นเวลานั้นราวกับนอกจากความอบอุ่นจากร่างเขา จังหวะหัวใจของเขา ลมหายใจของเขาที่ข้างหูและเสียงของเขา เธอก็ไม่รับรู้ถึงสิ่งใดอีก

เธอเลียริมฝีปากตั้งท่าพูด ได้ยินตัวเองถาม

“แล้วมี…อะไรอีก”

“คุณหันหน้ามา แล้วผมจะบอก”

เธอตื่นตัวและลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่เขาไม่ได้คาดคั้น เพียงรักษาท่วงท่าตามเดิม แล้วเธอก็หันไปมองเขา

เขาอยู่ใกล้เธอขนาดนี้ ใบหน้าอยู่เหนือหัวไหล่เธอไม่ถึงสามเซนติเมตร ศีรษะที่มีผมดำชี้ตั้งเอียงเข้าหาผนัง สายตาร้อนแรงจ้องจับอยู่ที่เธอ

เขายื่นหน้ามาใกล้เธอ ทำลายระยะห่างที่เหลือให้หมดไป

สัมผัสถึงริมฝีปากร้อนผ่าวของเขา แล้วเธอก็ส่งเสียงครางออกมา เขาใช้ริมฝีปากตัวเองบดเบียดกับริมฝีปากเธอ

แล้วก็จูบอีกครั้ง

ค่อยๆ ไล้ไปมา ลิ้มลอง ดูดกลืนอย่างแผ่วเบา

ความอบอุ่นดุจกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้ามาจากริมฝีปาก ทำให้ใจเธอสั่นระรัว

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอวิตก ขาดอากาศ หรือว่าเพราะอะไร เสี่ยวหม่านคว้าจับเสื้อเขาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ เผยอริมฝีปากออก

จากนั้นเขาก็รุกจูบเธอ

เธอรู้สึกถึงกลิ่นอายและจังหวะหัวใจที่แข็งแกร่งเปี่ยมพลังของเขา สัมผัสถูกเหงื่อและความร้อนจากร่างกายเขา เมื่อเขาโอบเธอเข้าในอ้อมแขน เธอก็รู้สึกได้ถึงความปรารถนารุนแรงของเขาที่สัมผัสกับเธอผ่านเนื้อผ้า ทำให้เธอร้อนซ่านไปทั้งตัว

เธอสั่นสะท้าน หายใจหอบข้างริมฝีปากเขา

เขายังคงจ้องมองเธอ ดวงตาดำขลับราวกับกำลังแผดเผา

เขาจูบเธออีกครั้งแล้วก็อีกครั้ง มือหนึ่งคลึงสะโพกเธอ อีกมือโอบเอวเธอไว้

ทั่วร่างเธอร้อนรุ่มจนไม่อาจคิดอะไรได้อีก เมื่อเธอรับรู้ได้ว่าเขากำลังจะอุ้มเธอ เธอค่อยพบว่าตัวเองเอามือเกาะรอบคอเขาและสองขาเกี่ยวกระหวัดรอบเอวเขาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

แย่มาก

ความคิดของเธอเลอะเลือน แต่เธอกลับไม่สามารถ และไม่อยากที่จะควบคุมตัวเอง

บ้าจริง เขาแข็งแกร่งมาก

เมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นมาอย่างง่ายดาย ความเป็นหญิงในตัวเธอก็ยิ่งเดือดพล่าน เสี่ยวหม่านสั่นสะท้านพร้อมกับพบว่าตัวเองทั้งไม่สามารถและไม่อยากจะถอนมือออกจากต้นคอของเขา ตัวเธอแนบชิดกับร่างที่ร้อนลวกของเขา ริมฝีปากประกบกับเขา

คนบ้านี่ทำให้เธอฝันอะไรวาบหวิวนานถึงสามเดือน

สามเดือน…

มีหลายครั้งที่เธอตื่นขึ้นกลางดึก รู้สึกว่าปากคอแห้งผากด้วยแรงปรารถนา

มีหลายครั้งที่เธอคิดว่าเธอควรจะมีแฟนสักที เธอเคยออกไปกินข้าวกับผู้ชายที่เพื่อนแนะนำมาให้อยู่สองสามคน แต่พวกเขาให้ความรู้สึกที่ไม่ใช่ ผู้ชายพวกนั้นไม่มีเสน่ห์ ขาดความแข็งแกร่ง และความดึงดูดใจน่าหลงใหลอย่างเขา

มีหลายครั้งที่เธอตื่นขึ้นจากฝันร้ายที่เห็นเขาใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดหรือเกิดเรื่องขึ้นกับเขาอย่างถูกฟันหรือถูกไฟคลอกตายในต่างบ้านต่างเมืองที่เธอไม่รู้จัก

เขาเป็นผู้ชายแบบที่เธอไม่ควรจะคบหาด้วย

มีหลายครั้งหลายหนที่เธอสาบานว่าได้เจอเขาอีกเมื่อไรเธอจะต้องตบเขาแรงๆ สักที

แต่พอเขาปรากฏตัวมาอยู่ตรงหน้าเธอกลับรู้สึกโล่งอกดีใจ และตอนนี้เธอแค่อยากลูบคลำร่างเขา ทำตามความฝันวาบหวิวชั่วร้ายเหล่านั้น

ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือเธอรู้ว่าเขาจะต้องเห็นดีเห็นงามไปกับมันด้วย

เขาอุ้มเธอเข้าไปในห้อง ไม่ต้องเปิดไฟดูก็หาเตียงเธอเจอได้อย่างเหมาะเจาะ แล้วก็วางเธอลงบนเตียง

เขาถอดเสื้อนอกกับผ้าพันคอเธอออกตั้งแต่ตอนอยู่ที่ทางเดิน รองเท้าพื้นเรียบร่วงลงที่ข้างเตียง

เขาถอดเสื้อตัวเองออกก่อนที่จะถอดของเธอ

ขณะที่เธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ริมฝีปากร้อนลวกของเขาก็พรมจูบลงบนเรือนร่างของเธอ ปลุกเร้าการตอบสนองอย่างต่อเนื่อง

อยู่ๆ หน้าอกก็รู้สึกเย็น เธอเพิ่งจะรู้ว่าเขาถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตเธอออก ถัดมาริมฝีปากเปียกชื้นก็จูบลงบนปลายยอดที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ

เสี่ยวหม่านเขินหน้าแดง สูดหายใจแล้วครางก่อนจะรีบห้ามตัวเองไว้

เสื้อชั้นในยังอยู่บนร่างเธอ แสดงว่าเขาเป็นคนใช้ปากดึงมันลงมา

ในห้องเงียบมาก แต่เกิ่งเนี่ยนถังก็ได้ยินอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเธอร้องครวญ เสียงหายใจ หรือเสียงครางเบาๆ

เขารู้สึกได้ว่าเธอสั่นสะท้านเพราะปากเขา ทั้งปรารถนาและเอียงอาย น่ารักเหลือเกิน

เขาใช้ปลายลิ้นจูบ ขบยอดอกของเธอให้ตั้งชัน ได้ยินเธอพยายามอดกลั้นท่ามกลางความมืด แต่ก็ยังครางเสียงแหลมเล็กออกมาทุกครั้ง

สวรรค์ กลิ่นเธอหอมหวานมาก ยิ่งได้ลิ้มลองยิ่งหอมหวาน

ตอนที่อยู่ที่ทางเดิน ขณะหนึ่งเขานึกกลัวขึ้นมาจริงๆ ว่าเธอจะปฏิเสธเขาอีก

ถ้าหากเธอพูดว่าไม่ เขาก็สงสัยว่าตัวเองจะมีสติสัมปชัญญะควบคุมตนเองได้ไหม

เธอใส่แว่นตากรอบดำดูเป็นทางการดี

พอเธอพูดถึงความเป็นไปได้ที่เธอจะมีแฟนแล้ว เขาก็รู้สึกสับสนโดยไม่มีสาเหตุ ต่อมาถึงได้เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมาที่นี่

สวรรค์ก็รู้ เขาพยายามลบภาพเธอออกไปจากหัว ซ่อนไว้ในเสี้ยวมุมเล็กๆ ให้เวลาทำงานไปตามกลไกของมัน

แต่ทุกครั้งที่เขากำลังเผชิญกับความยากลำบาก หญิงร่างเล็กคนนี้มักจะวิ่งออกมาจากเสี้ยวมุมเล็กๆ นั้นมาทะเลาะกับเขา ล่อลวงเขา ให้กำลังใจเขา บ่นว่าเขา…

และร่วมรักกับเขา

Comments

comments

Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี บทที่ 1

บทที่ 1 ปีที่ยี่สิบสี่รัชศกเฉียนเต๋อแห่งราชวงศ์ต้าผิงได้ถูกกำหนดให้เป็นปีที่ต่างไปจากปกติธรรมดา ชุนจื้อ เพิ่งผ่านไป ข่าว...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน บทเพลงปณิธาน ตำนานวิหคโผบิน บทนำ-บทที่ 2

บทนำ   เทวทูตแห่งเขาปี้ลั่ว   วันนี้เป็นวันจิงเจ๋อ ขณะทูตจากเขาปี้ลั่วมาถึงสกุลมู่ มู่เฉินเพิ่งจะดึงถังน้ำขึ้นมาจาก...

community.jamsai.com